ชาปลายมือปลายเท้า เคยมั้ย รู้สึกเหมือนมีเข็มแทง หรือ ปวดแสบปวดร้อนที่ปลายมือ ปลายเท้า บางครั้งไม่มีความรู้สึกบริเวณปลายมือ ปลายเท้า เหมือนสวมถุงมือถุงเท้าหนาๆอยู่
หรืออาจรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดแค่แตะเบาๆ ก็รู้สึกเจ็บ รู้สึกร้อนหรือเย็นผิดปกติ ที่บริเวณมือหรือเท้า อาการชา อาจเกิดขึ้นได้ในรูปแบบที่หลากหลาย อาจเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ เช่นปวดหรืออ่อนแรง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ อาจเป็นๆ หายๆ หรือเป็นต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนทำให้หลายๆ คนเคยชินและปล่อยทิ้งไว้จนเป็นอันตรายได้
อาการต่างๆ เหล่านี้ส่วนมากเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท หรือที่เรียกว่าปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathies) ซึ่งมีสาเหตุมาจาก
เส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานานๆ เช่น ผู้ที่ใช้งานข้อมือหนักจนเกิดเนื้อเยื้อหนากดทับเส้นประสาทบริเวณนั้น เช่น ผู้ที่ทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้า หรือพิมพ์งานหน้าพิมพ์ดีดหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ นอกจากนั้นยังพบในผู้ป่วยที่เส้นประสาทถูกกดเบียดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือเส้นประสาทที่สะโพกถูกกดเบียด
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานซึ่งมีรายงานว่าเป็นกลุ่มเลี่ยงที่จะเกิดอาการชาได้มากกว่าคนปกติ
สาเหตุใดๆ เช่น อุบัติเหตุที่ทำให้เส้นประสาทเกิดความเสียหาย หรือ ยาหรือสารพิษบางชนิด
อาการชารักษาได้
การรักษาอาการชาจากโรคปลายประสาทอักเสบนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างๆ กัน แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้หลายๆ วิธีร่วมกัน
การกำจัดสาเหตุ เช่น รักษาโรคที่เป็นสาเหตุดังกล่าว เช่น โรคเบาหวานก็ควรรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือหากเกิดจากเส้นประสาทกดทับ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเลี่ยงหรือลดการกดทับ
การผ่าตัด ในกรณีที่มีอาการรุนแรง
กายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท
การรักษาด้วยยา นอกจากยารักษาโรคประจำตัวของผู้ป่ายแล้ว อาจมีการใช้ยาแก้อักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์, ยาแก้ปวด ในกรณีที่มีอาการปวด และที่สำคัญคือควรรับประทาน มีโคบาลามิน (Mecobalamin) ในขนาดสำหรับการรักษาเพื่อส่งเสริมในกระบวนการซ่อมแซมเส้นประสาท บรรเทาอาการชาและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ผิวสวยใสสุขภาพดี by khunnine aoy
https://m.facebook.com/khunnineaoy
http://khunnineaoy.blogspot.com/?m=1
หรืออาจรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดแค่แตะเบาๆ ก็รู้สึกเจ็บ รู้สึกร้อนหรือเย็นผิดปกติ ที่บริเวณมือหรือเท้า อาการชา อาจเกิดขึ้นได้ในรูปแบบที่หลากหลาย อาจเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ เช่นปวดหรืออ่อนแรง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ อาจเป็นๆ หายๆ หรือเป็นต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนทำให้หลายๆ คนเคยชินและปล่อยทิ้งไว้จนเป็นอันตรายได้
อาการต่างๆ เหล่านี้ส่วนมากเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท หรือที่เรียกว่าปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathies) ซึ่งมีสาเหตุมาจาก
เส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานานๆ เช่น ผู้ที่ใช้งานข้อมือหนักจนเกิดเนื้อเยื้อหนากดทับเส้นประสาทบริเวณนั้น เช่น ผู้ที่ทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้า หรือพิมพ์งานหน้าพิมพ์ดีดหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ นอกจากนั้นยังพบในผู้ป่วยที่เส้นประสาทถูกกดเบียดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือเส้นประสาทที่สะโพกถูกกดเบียด
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานซึ่งมีรายงานว่าเป็นกลุ่มเลี่ยงที่จะเกิดอาการชาได้มากกว่าคนปกติ
สาเหตุใดๆ เช่น อุบัติเหตุที่ทำให้เส้นประสาทเกิดความเสียหาย หรือ ยาหรือสารพิษบางชนิด
อาการชารักษาได้
การรักษาอาการชาจากโรคปลายประสาทอักเสบนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างๆ กัน แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้หลายๆ วิธีร่วมกัน
การกำจัดสาเหตุ เช่น รักษาโรคที่เป็นสาเหตุดังกล่าว เช่น โรคเบาหวานก็ควรรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือหากเกิดจากเส้นประสาทกดทับ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเลี่ยงหรือลดการกดทับ
การผ่าตัด ในกรณีที่มีอาการรุนแรง
กายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท
การรักษาด้วยยา นอกจากยารักษาโรคประจำตัวของผู้ป่ายแล้ว อาจมีการใช้ยาแก้อักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์, ยาแก้ปวด ในกรณีที่มีอาการปวด และที่สำคัญคือควรรับประทาน มีโคบาลามิน (Mecobalamin) ในขนาดสำหรับการรักษาเพื่อส่งเสริมในกระบวนการซ่อมแซมเส้นประสาท บรรเทาอาการชาและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ผิวสวยใสสุขภาพดี by khunnine aoy
https://m.facebook.com/khunnineaoy
http://khunnineaoy.blogspot.com/?m=1
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น